Sunday 9 May 2010

ความรักหลายสี



ผมเคยเขียนเรื่อง “สี” เรื่องที่มีหลายอารมณ์ของ “ความจริง ความรู้สึก และความรัก” ปนเปกันไป “สี”เป็นเรื่องของสัญลักษณ์ที่มีอัตลักษณ์ด้วยตัวของตัวเอง แต่ก็ได้สร้างความรู้สึกบนสิ่งอื่นให้คนอื่นคล้อยตาม เพื่อแปลความหมายตามความรู้สึก ซึ่งบางครั้งความรู้สึกของสีนั้นๆก็ไม่จำเป็นต้องเป็นความจริงเสมอไป “สี”จึงเป็นตัวแทนของอะไรได้หลายๆอย่าง มองได้จากหลายๆมุม ซึ่งคงจะเป็นมุมที่จริงบ้าง ลวงบ้าง แล้วแต่ว่าเราจะเอามาแทนตัวของเราเองในมุมๆไหน หรือแทนอย่างไร
...
ผมมีรุ่นน้องสองคนที่คบกันมานานและก็รักกันมาก เฉียดจะตกร่องปล่องชิ้นกันก็หลายครั้ง เพื่อนๆยกธงเชียร์ให้ลงเอยกันซักที ไปๆมาๆตอนนี้ติดโรคยอดฮิตของคนที่คบกันนานๆ คือโรค “สีเทา” โรคนี้หลายคนคงจะเคยเกิดกับตัวเอง และหลายคนคงจะเคยผ่านมันไปครับ สำหรับคนที่คบกันมานาน สีสวยๆของความรักอาจเริ่มจาง อาจเพราะช่วงแรกละเลงสีมันมากเกินไป หรือสิ้นเปลืองสีไปด้วยเวลา อาจเป็นเพราะมีสีอื่นๆที่เรายอมให้มันเข้ามามีอิทธิพลกับสีเดิมของเราโดยเราเองก็ยังไม่รู้ตัว เราปล่อยให้มีสีหลายๆสีมาผสมมั่วไปหมด สร้างม่านบางๆสีเทาที่ทำให้เราเริ่มมองไม่เห็นกัน มองไม่เห็นว่าม่านนั้นน่ะจริงๆแล้ว “ไม่มีอะไรเลย” ไม่มีอะไรนอกจากสิ่งที่เราสร้างขึ้นเองและสร้างมาด้วยกัน แต่เราเองลืมตัวไปชั่วขณะ ปล่อยให้มันผสมกันเองในถาดสี แทนที่จะวาดเส้นสายขึ้นมาด้วยกัน เป็นภาพวาดของชีวิตบนกระดาษ และระบายลงไปด้วยความหลากหลายของกันและกัน เพื่อทำให้ภาพวาดนั้นกลายเป็นเรื่องราวที่สร้างโดยเรา และเป็นของเราไปอีกนานแสนนาน เป็นเรื่องราวที่ดูอีกกี่ครั้งก็สวย และที่สำคัญเรื่องราวในภาพนั้นมี “สี” ของเราทั้งสองคนผสมกลมกลืนกันลงตัว มองได้หลายมุม สวยได้หลายแบบ

...
ภาพชีวิตของคนหลายคนมักมีสีหลากสี เพราะความรักในชีวิตมักไม่สามารถระบายให้จบในครั้งๆเดียว กว่าจะได้ภาพที่สมบูรณ์เรามักผ่านการใช้สีหลายๆสี มากน้อยไม่เท่ากัน
...

ความรักสีเทาถึงแม้จะดูหดหู่ ท้อถอย แต่สีเทาก็เป็นสีที่ระบายออกถึงอารมณ์ที่บางครั้งจำเป็นต้องมีอยู่ในชิวิตครับ เพียงแต่ขอให้รู้จัก“จำกัด”ให้สีเทาอยู่ในส่วนเล็กๆของภาพ และเมื่ออยู่ในภาพสีนี้ก็คือการเตือนความทรงจำว่าภาพที่จะสมบูรณ์ได้ก็เหมือนชิวิตที่หลายครั้งความสวยไม่ใช่เรื่องราวอันหมดจรดที่เล่าครั้งเดียวแล้วสวยได้แบบไม่มีตำหนิ

ความรักบางครั้งเป็นสีชมพู ที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ถึงจะมีใครมาฉุด ฉันก็ขอแอบ ก็ตอนเป็นเด็กน่ะมันไม่ต้องรู้ ไม่ต้องใส่ใจอะไร ขอแค่คิดว่าเป็นเธอน่ะ เพราะงั้นอะไรๆก็ใช่ อยากคิดถึงทุกคืน ความรักสีนี้เป็นความรักแบบทุ่มเททุ่มทุนสร้าง มองรอบตัวอะไรก็สวยงามไปหมด เป็นสีที่ถึงแม้ผ่านมานานก็ยังไม่ลืม และแอบยิ้มแบบปลื้มๆถึงสิ่งเราก็เคยมี

ความรักสีแดงถึงดู “ร้อนแรง” แต่ก็มักจะ “โหดร้าย”ตอนจบ จำได้มั้ยครับ ความรักแบบที่บางครั้งเรารู้ว่าต้องการด้วยความอยาก ราคะ แรงและมึน (แต่ก็จะเอาอ่ะ) ทำให้มองอะไรอย่างอื่นไม่เห็น มองหาเหตุผลไม่มี ความรักและปลื้มคนที่เค้ามีเจ้าของแล้วทั้งที่รู้ว่ามันผิด หรือหลงเธอคนนั้นแบบทั้งตัวทั้งใจขอไปอยู่ด้วย (แต่ก็รู้ว่าจะจบไม่สวย เอาวะ ยังงัยขอไปด้วยตอนนี้ก่อนละกัน)

ความรักสีเขียว สีของความพอพอเพียง แต่เป็นความรักแบบไม่มีวันลงเอย เคยมั้ยครับที่มีรักแบบไม่ต้องมีความหวังแต่หัวใจเต็มไปด้วยพลังแบบพี่มีแต่ให้ ไม่ต้องเอาอะไรแค่ขอให้เธอรู้ซักนิด(เผื่อจะมีหวัง) ความรักในครอบครัวก็เป็นสีเขียวๆอบอุ่นแบบนี้ครับ

ความรักเศร้าๆ “สีบลู” รู้ว่าเขาและเธอไม่อยู่ข้างๆเราอีกแล้ว เป็นความรักที่สูญเสียแบบลาจาก รักแบบทรมานเพราะไม่มีวันได้พบกันอีก รักที่ต้องทำใจที่รู้ว่าถึงจะเป็นรักแท้ แต่จากไปแบบไม่มีวันกลับ หรือความรักที่รู้ว่าสักวัน ยังงัยมันก็ต้องจบ คงต้องรักแบบเรียนรู้ที่จะยอมรับกับความเศร้าความหดหู่

หรือความรักสีเหลืองอ่อนๆ แบบ“แอบๆ” ค่อยๆใกล้ชิด ปิดยังงัยก็ไม่มิดแต่ยังไม่กล้าบอก มีโอกาสแต่ยังไม่แน่ใจ หรือมีใจแต่ยังไม่กล้าคิด เป็นความรักแบบที่มีสีเบียดๆค่อยๆละเมียดเข้าไปหา

ความรักที่รู้ว่ายากแต่ด้วยความพยายามอะไรก็เป็นไปได้ คือความรักสีม่วงที่ “ลึก” แต่ “เร้าใจ” ที่ถึงจะดูยังงัยมันก็ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ เอ้า เป็นงัยเป็นกัน ความรักแบบกล้าๆกลัวๆ เสี่ยงๆนิดๆ ตื่นเต้นหน่อยๆในตอนแรก พอลองดูแล้วก็รู้ว่าติดใจ(อ่ะ)

หรือความรักสีขาว ที่ไม่จะเป็นต้องเป็นแค่สีของความบริสุทธิ แต่มองเป็นสีที่ช่วย “ลดทอน” ความไม่พอดี ความเกินเลยของสีต่างๆ เป็นสีของความรักที่ช่วยรักษาสมดุลของภาพวาดที่ผสมผสานไปด้วยสีต่างๆให้ลงตัว สีขาวจึงมีความเป็นสีของ “ความรักตัวเอง” ที่มอบให้กับสีอื่นๆเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจกับอะไรๆที่เราใช้ไปในชีวิต
...
ภาพวาดของชีวิตเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความรัก ถึงจะวาดให้สวยจากความพยายามผสมสีตั้งแต่เริ่มต้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป อะไรๆก็เก่าลง ภาพๆนั้นจึงจำเป็นต้องมีการเสริมเติมแต่งเพื่อให้ชีวิตนั้นสวยอยู่เสมอ ก็ “สี” ต่างๆของความรักที่เรามีอยู่ในครั้งแรกนั่นแหละครับ ที่เราเลือกใช้เติมจุดต่างๆในภาพที่มันอาจจะจางอาจจะบางลงไปบ้าง เติมตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง บางครั้งสีโน้น บางครั้งสีนี้ เติมไปอยู่ไป ไม่มีวันเสร็จ
...

เพราะความรักของเรา จะสวย จะสมบูรณ์แค่ไหน..

อยู่ที่เราเลือกใช้สีอะไร..
ในช่วงเวลาไหนของชีวิตครับ

1 comment:

Vendyp said...

Nice one and very touching indeed. Ty for sharing ka.

Post a Comment