Tuesday, 28 September 2010

ไม่อิน(เทรนด์) ก็เอ้าท์




ไม่ต้องร่ายยาวให้มากความ ว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการในยุคนี้สมัยนี้เปลี่ยนแปลงเร็วขนาดไหน ไม่ต้องย้ำอีกให้เสียเวลา ว่าเศรษฐกิจขณะนี้มีผลกระทบกับความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างไร เรื่องของเรื่องคือธุรกิจของเราให้ความสำคัญกับเทรนด์เหล่านี้มากน้อยเพียงใด

องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่สามารถคาดเดาสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาและส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อของผู้บริโภคครับ อย่างไรก็ดีมีงานวิจัยหลายชิ้นจาก Harvard Business School ออกมาระบุว่าองค์กรเหล่านั้นยังไม่ได้ศึกษาปัจจัยหลักจากเทรนด์หรือกระแสใดๆที่สร้างอิมแพคโดยตรงกับความอยากจะซื้อ ทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งจริงๆ ที่เป็นอย่างนั้นเพราะองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มักเลือกที่จะ“รอ”เพื่อดูคู่แข่งหรือสภาวะตลาดที่ตอบสนองต่อกระแสที่เกิดขึ้น หรือไม่ก็น้อยมากที่จะปรับสินค้าหรือบริการของตัวเองอย่างรวดเร็วให้เป็นไปตามกระแสของตลาด

...

กระแสหรือเทรนด์หลายครั้งก็สามารถสร้าง “พลัง” ทางการตลาดและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้หลายรูปแบบและหลายทางครับ

เช่น กระเป๋าถือสุภาพสตรียี่ห้อ Coach ที่เป็นภาษา feminism ที่บ่งบอกความมั่งคั่งของผู้ถือมากว่า70ปียังต้องปรับตัวตามกระแสความไม่แน่นอนตามเศรษฐกิจโลกโดยการขยายคำจำกัดความของความหรูของแบรนด์อย่างเนียนๆ ด้วยการนำเสนอสินค้าไลน์ใหม่ที่ราคาถูกลงแต่คงไว้ซึ่งความเป็น Coach อย่างกระเป๋าถือรุ่น Poppy

หรือ Nike+ ที่รวมเอาความเป็น sportmanship ของ consumer กับกระแสใหญ่เชิงวัฒนธรรมของความคลั่งไคล้ในเทคโนโลยีและแฟชั่นของคนอเมริกัน โดยการรวมเอารองเท้ากีฬามาไว้กับเครื่องเล่น iPod จากกระแสดิจิตอลที่เปลี่ยนแปลงแทรกซึมเข้ามาใน life-style ของเราอย่างรวดเร็ว (ขายถล่มไปสองล้านกว่าคู่)

และ เทรนด์ทางด้านการการ “รักษ์” สนใจดูแลสุขภาพ ที่ทำให้เครื่องเล่นเกมส์ Nintendo ต้องสู้กับกระแสต่อต้านการเล่นวิดิโอเกมส์ของเด็กๆที่ดูไร้สาระไม่มีประโยชน์ (เพราะได้แต่นั่งใช้นิ้วจ้องจอภาพอยู่นิ่งๆกับที่ทั้งวัน) โดยการพัฒนาโมดูลของผู้เล่นที่ผสานเอาความเคลื่อนไหวกับ physical movement ของตัวเองเข้าไปในคอนโซลของเกมส์ (หลายท่านคงเคยเห็น คนเล่นเกมส์ตีเทนนิสหรือเกมส์ทำกับข้าวที่ต้องขยับหน้าจอเหมือนกำลังมีกิจกรรมนั้นอยู่จริงๆ!)



เรื่องการติดตามเทรนด์ให้อินน์ไม่เอ้าท์เป็นเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องการทำให้สินค้าหรือบริการของเราสะท้อนและตอบรับรูปแบบของเทรนด์นั้นๆออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเราๆท่านๆส่วนใหญ่คิดแบบง่ายๆว่ากระแสหรือเทรนด์นั้นๆอาจอยู่นอกขอบเขตตลาดของเรา (ตีกรอบให้ตัวเอง) หรือเรามองเข้าข้างตัวเองว่ากระแสเป็นแค่กระแส ไม่ไปศึกษาอย่างจริงจังว่ากระแสจะสร้างผลกระทบกับตลาดของเราอย่างไรได้บ้าง หรือแม้แต่การที่เรามัวแต่ใช้เวลารอดูนานเกินไปจนคู่แข่งหรือคนอื่นคว้าไอเดียหรือความคิดดีๆเอาไปทำก่อน

เทรนด์หรือกระแส ไม่ว่าทางสังคม สิ่งแวดล้อม การเมืองหรือเศรษฐกิจ คิดแล้วมีผลกระทบต่อวิธีการที่ผู้คนมองโลกรอบๆตัวและสร้างทิศทางในการที่ผู้บริโภคจะคาดหวังอะไรๆจากสิ้นค้าและบริการ องค์กรทางธุรกิจต้องรู้จักวิธีทำตัวให้อินน์อยู่เสมอ เพราะทำตัวตกยุคเมื่อไหร่ก็บ๊ายบายเมื่อนั้นครับ

No comments:

Post a Comment