Friday 19 December 2008

Are we really a management?

เนื่องด้วยบริษัทฯเราซับซ้อนขึ้นในหลายมิติ มิติของจำนวนคน การบริหารองค์กร การสื่อสารภายในและภายนอก และอื่นๆ จะเปรียบให้ฟังสำหรับคำว่า หัวหน้างาน ผู้จัดการ ผู้อำนวยการ (Supervisor Manager Director)เหมือนกับ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก (Bachelor Master Doctor of Philosophy)Bachelor แปลตรงๆว่าคนโสดในภาษาละติน เป็นคนที่คิดว่าตัวเองอิสระ เที่ยวเล่นไปที่ต่างๆเห็นโลกเป็นครั้งแรกและนึกว่ารู้ทุกอย่างในโลก แปลว่านึกว่าตัวฉลาดแต่คนส่วนใหญ่มองว่าโง่Master แปลตรงๆว่า นาย หรือ ผู้นำทางความคิดหรือทางการกระทำ ในภาษาละตินหมายความว่าผู้ที่รู้จริงเห็นจริงและสอนคนอื่นๆได้ เป็นครูได้ แต่จริงๆคนส่วนใหญ่มองว่าผม สั่งเป็น สอนได้ แต่คนไม่มั่นใจ ไม่ยอมรับหรือไม่เชื่อใจว่า มันสอนถูกหรือเปล่าDoctor of Philosophy แปลว่าผู้ที่ต้องศึกษาลึกถึงแก่นในวิชาปรัชญา วิชาปรัชญาถือเป็นแม่แบบการศึกษาในทุกๆอย่าง เป็นการศึกษาเรียนรู้กลับไปในรากเหง้าของทุกสิ่งอีกครั้งเพื่อเอามาขัดเกลาหาสิ่งใหม่เพื่อปัจจุบันในสรรพสิ่งที่ได้พัฒนาแล้ว ที่น่าสนใจคือคนกลุ่มนี้นึกว่าตัวเองพบ แล้ว รู้แล้ว เห็นแล้ว ทำให้ไม่มองไปข้างหน้าหรือมองไม่เห็นคนอื่นๆข้างหลัง กลายเป็นประมารถ ทรนง สะเพร่า เลินเล่อหัวหน้างาน พี่เชื่อว่าน้องทุกคนผ่านมาแล้ว คือเป็นผู้นำที่ดีพอสมควร ทำงานให้ได้ตามที่ได้รับนโยบาย สานต่อได้มีประสิทธิผล(ปริมาณ)ผู้จัดการ คือจัดการได้หลายสิ่งพร้อมๆกันในเวลาเดียวกันให้เสร็จตามเป้าหมาย รับเงื่อนไขที่ยากขึ้นมากขึ้นแต่มีประสิทธิภาพขึ้น(คุณภาพ)ผู้อำนวยการคือ ทั้งหัวหน้างานและผู้จัดการรวมกัน (สองอันนี้รวมกันไม่เกิน 50%ของความเป็น directorship) มองปัญหาและศึกษาปัญหาอย่างถ่องแท้ ทดลองแก้ นำไปใช้ และควบคุม มองโจทย์ที่ได้รับให้เข้าใจในหลายๆมิติ นำเสนอกลั่นกรองสิ่งใหม่จากสิ่งเก่า เหมือนกลับไปที่รากเหง้าของทุกสิ่งแต่ในอยู่องค์รวมมากขึ้น ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบก็ไม่ใช่มองแต่ อัตลักษณ์และบริบทของงานออกแบบเพื่องานขายและงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องในระนาบเดียวกัน(ใครๆก็ทำได้ ย้ำใครๆก็ทำได้) แต่เราจะสนับสนุนงานอื่นๆด้วยความเป็นตัวเรา อัจฉริยภาพทางงานศิลปของเราที่มีอยู่(อย่างไม่ต้องสงสัย)ได้อย่างไรผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดก็มิใช่แค่การตลาด การขายหรือการพัฒนาความสามารถในการรองรับการขาย (ใครๆก็ทำได้) แต่เราจะสนับสนุนคนอื่นด้วยจุดเด่น(หรือด้อย)ของเราได้อย่างไร เราจะทำให้การสื่อสารจากตัวเราชัดเจนได้อย่างไร ในตลาด ในองค์กรคำถามของพี่คือ ตอนนี้เรามองหรือเข้าใจโจทย์ที่ได้รับอย่างถ่องแท้หรือยัง? เป็นหัวหน้างานหรือ bachelor ที่เป็นผู้นำที่ดีพอสมควร มองอะไรกว้างในโลก ไม่กลัวและพร้อมที่จะลุย สิ่งต่างๆหรือยัง? เป็นผู้จัดการหรือmaster ที่ลูกน้องรัก เคารพเชื่อใจจริงๆหรือยัง? (Respect is what you have to EARN, not to be given by birth or social/work status or appointment)ตอนนี้เราทดลองแก้ปัญหาหรือแก้โจทย์ มองอะไรลึกในทุกๆมิติ like a philosopher หรือยัง?ตอนนี้เราคิดหรือนึกเอาเองว่ารู้แล้ว เห็นแล้ว พอก่อน ทำให้ไม่มองไปข้างหน้าหรือมองไม่เห็นคนอื่นๆข้างหลัง ทรนง สะเพร่า เลินเล่อ หรือไม่?สิ่งที่พี่พูดไม่เกี่ยวกับเวลาหรือทรัพยากรที่มีครับ ห้ามอ้างสิ่งที่พี่พูดคือเรื่อง Awareness of Directorship ล้วนๆสิ่งที่พี่พูดคือเรื่องรากของปัญญา ของการรับรู้ ของวิธีการอยู่ที่ตัวตนและการตีความเงาความคิดขอให้ exploit your directorship อย่างที่ควรจะเป็นถ้ายังทำไม่ได้ก็ยังไม่ใช่ ผู้อำนวยการ แต่เป็นแค่ผู้จัดการหรือหัวหน้างานที่เก่งเท่านั้นครับตระหนักไว้ว่าสงครามเศรษฐกิจในปีหน้า เป็นการเอาชนะตัวเอง

No comments:

Post a Comment