Friday 16 October 2009

เครือข่ายสังคมออนไลน์ นโยบายบนความเป็นจริง




สองสามสัปดาห์มานี้ผมไม่มีเวลากับงานเขียนมากนัก โชคดีที่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีออนไลน์ทั้งหลาย ไม่ว่ามือถือ สมาร์ทโฟน วายไฟ และโซเชียลเน็ตเวิร์กหรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำให้เรื่องส่วนตัวและการทำงานหลายอย่างของผมถึงจะไม่ได้ราบรื่นนัก แต่ก็ไม่ถึงกับสะดุด

“คุณเล่นเอ็ม หรือเฟสบุ๊คหรือเปล่า” ดูเหมือนคำถามแบบนี้จะเป็นเรื่องปรกติไปแล้วสำหรับการสัมภาษณ์งานในยุคปัจจุบัน ผู้ถูกสัมภาษณ์มักจะตอบแบบกล้าๆกลัวๆว่า “เล่นครับ เอ่อแต่ก็ไม่บ่อย”

...ก็ว่ากันไป

“คือที่ถามน่ะ เพราะบริษัทสนใจคนที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นหรือคุ้นเคยกับมันครับ”
“อ๋อ งั้นหรือพี่” ท่าทางเครียดน้อยลง
“ครับ ผมน่ะติดเอ็ม และใช้บีบีอับรูปขึ้นเฟสบุ๊กประจำเลยครับพี่”

...

เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นเรื่องที่ธรรมดาและกึ่งจะจำเป็นไปซะแล้วในโลกทุกวันนี้ อย่างไรก็ดีหลายๆบริษัท มีมุมมองหลายมุมและมีวิธีปฏิบัติกับพนักงานที่ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กในรูปแบบต่างๆกัน เพื่อนของผมคนหนึ่งทำงานในบริษัทออกแบบที่อเมริกาได้รับอนุญาติให้เล่นเฟสบุ๊กได้ไม่เกินสิบนาทีต่อวัน (แต่ก็ไม่ได้ห้าม) บริษัทไฟแนนซ์หลายแห่งในเมืองไทยบล๊อกเอ็มและเฟสบุ๊กอย่างเด็ดขาด อีกหลายบริษัททางวิศวกรรมในเมืองไทยปล่อยให้ใช้อย่างอิสระเพราะอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไรและพนักงานทำอะไรอยู่อีกด้านหนึ่งของคอมพิวเตอร์ส่วนตัว บริษัทใหญ่เล็กที่ทำทางด้านสื่อ มีเดีย หรือประชาสัมพันธ์ โฆษณา กำหนดว่าพนักงานรุ่นใหม่ๆต้องรู้จักสามารถใช้เว็บและโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างคล่องแคล่วเพื่อการทำงานวิจัยตลาดและพูดคุยติดต่อกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับองค์กรต่างๆ เรื่องของเครือข่ายสังคมออนไลน์ขณะนี้กำลังกลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาและควรมีรูปแบบกำหนดการใช้งานได้ตรงกับเป้าหมายและนโยบายองค์กร เมื่อเรื่องที่ “ธรรมดา” ของโลกปัจจุบันกลายเป็นเรื่อง “ไม่ธรรมดา” ที่ทุกๆองค์กรควรรู้ เข้าใจและสามารถกำหนดเป็นแนวทางได้

...

ไม่ว่าจะเป็นแนวทางแบบ “อยากให้คุณรู้ว่าเราอยากให้คุณใช้ (เครือข่ายสังคมออนไลน์)” แต่คุณจะใช้ให้เป็นและใช้อย่างมีประโยชน์ได้อย่างๆไร

หรือเป็นแนวทางแบบ “อยากให้เข้าใจวิธีการใช้งาน” มากน้อย ถี่บ่อย แผนกใดใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ไหน ในเครื่องมือในเครือข่ายประเภทใด (ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเล่นแต่เกมส์) ขอบเขตอยู่ที่ไหน

ทั้งเป็นแนวทางแบบ “อยากให้เข้าใจ อยากให้คุณรู้จักแยกแยะการใช้งานส่วนตัวและการใช้เรื่องงาน” จะมีกี่บัญชีชื่อ กี่แอ็กเค้าก็ว่ามา
และเป็นแนวทางแบบ “อยากให้เข้าใจว่ามีความเสี่ยงจากการใช้งาน” ไม่ว่าไวรัส หรือความลับบริษัทรั่วไหล และเราจะช่วยกันป้องกันอย่างไรดี

สุดท้าย คืออยากให้เข้าใจว่า “ถ้าคุณสามารถใช้ประโยชน์จากเจ้าเครือข่ายสังคมออนไลน์เหล่านี้ได้ บริษัทจะมองเห็นคุณค่า” และพร้อมที่จะตอบแทนพนักงานในรูปแบบต่างๆ

...

กำหนดแนวทางได้ดี ทำให้พนักงานเข้าใจและเชื่อมั่น สุดท้ายนโยบายเหล่านี้จะให้ผลเลิศกับองค์กรเอง

เรามาลองใช้ประโยชน์แบบจริงจังจากเครือข่ายสังคมออนไลน์กันดีมั้ยครับ

No comments:

Post a Comment