Saturday, 7 May 2011
ธุรกิจของคุณในอีก10ปีข้างหน้า
อยากให้เราลองนึกภาพคุ้นตาของเด็กนักเรียนสมัยนี้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือเสมือนเป็น'ลมหายใจทางสังคม'ของพวกเขา ตั้งแต่ตื่นนอนยันนอนหลับ เด็กสมัยนี้ไม่ใช่แค่'เสพ'แต่'สร้าง'คอนเทนต์ได้เองเพื่อแสดงออก เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วม และจำแลงตัวตนกับกลุ่ม หรือเพื่อนของพวกเขา เด็กสมัยนี้ต้องการ 'เชื่อมต่อ' ความคิด ความเชื่อ ความรู้สึกถึงสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวครับ
นักการตลาดเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Gen C ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น Generation ของการเชื่อมต่อ (Connected) การสื่อสาร (Communicating) การยึดเนื้อหา (Content-centric) และการสร้างสังคมความผูกพันธ์ (Community-oriented) คนกลุ่มนี้ชื่นชมความมีเสรีทางความคิดและอิสระวัฒนธรรม กล้าแสดงออก เป็นตัวของตัวเอง คนกลุ่มนี้โตขึ้นมากับ Harry Potter, Internet TV, iPad หรือ iPhone สำหรับคนกลุ่มนี้เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่'จุติ'ขึ้นมาพร้อมกับชีวิตของเขา แทรกซึมในชีวิตของเขา โตมากับเขา เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เป็น'ตัวช่วย'หรือส่วนเสริมให้ชิวิตประจำวันสะดวกสบายขึ้นเหมือนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเขาอีกต่อไป
คนกลุ่มนี้ไม่ยึดอยู่กับโลกเพียงมิติเดียว เพราะเขาเกิดขึ้นมาในยุคของโลกที่ไม่รู้จักความเป็นจริงอื่นนอกจาก อินเตอร์เนต สมาร์ตโฟน หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ พวกเขาทุกคนมีโทรศัพท์มือถือแต่ส่วนใหญ่จะเอาไว้ 'chat' แม้แต่เวลาจะคุยกันเรื่องจิปาถะสัพเพเหระก็เอาไปโพสต์ไว้บน Facebook เพื่อให้ทุกคนมองเห็นว่าเค้ากำลังสนใจเรื่องอะไร จะดูทีวีเดี๋ยวนี้ก็ YouTube ไปโดยปริยาย (คนจัดเรตติ้ง เลื่อนเวลา'ดอกส้มสีทอง'คงไม่รู้ ว่าเดี๋ยวนี้พวกหนูเค้าตามดู'เรยา'ได้จาก YouTube นี่แหละ)
ที่น่าสนใจคือภายในไม่ถึงสิบปีข้างหน้าเด็กๆของเราจะกลายเป็นตัวแทนคนกลุ่มนี้โดยสมบูรณ์ กลุ่มที่จะเป็นตัวแทนของประชากรกว่าครึ่งใน สหรัฐ ยุโรปและอีกหลายประเทศในเอเชีย
...
แล้วธุรกิจของเราเตรียมตัวรับมือกับผู้บริโภคกลุ่มใหม่กลุ่มนี้อย่างไร?
...
ลองนึกภาพดู ว่าเรายังนั่งถกเถียงกันเรื่องกฏหมายคุ้มครองคุณหมอหรือกฏหมายรักษาสิทธิของผู้บริโภคในการรักษาพยาบาล ในขณะที่อีกหน่อยไม่นานเราน่าจะเห็นโรงพยาบาลต่างๆต้องปรับตัวให้ทันกับพลังทางความคิดของคนไข้ที่จะเขียนบล๊อกหรือสื่อออนไลน์ระบายความรู้สึกของคุณภาพการรักษาพยาบาลของคุณหมอ คุณภาพการบริการของโรงพยาบาลที่ได้รับ ค่าใช้จ่ายของการรักษา หรือแม้แต่ประเภทของยาที่คุณหมอหรือโรงพยาบาลเลือกใช้ งานวิจัยทางการแพทย์คงจะถูกกำหนดโดยสิ่งเหล่านี้ รูปแบบของการรักษาโรคและการให้บริการจะเปลี่ยนไป ส่งผลถึงรูปแบบธุรกิจของการประกันสุขภาพของเอกชนหรือแม้แต่นโนบายการประกันสุขภาพของรัฐที่จะต้องหันกลับมามอง
หรือลองมองธุรกิจท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสูงว่าอีกไม่นานบริษัททัวร์แบบโบราณจะทำตลาดและหาลูกค้าได้ยากขึ้น เพราะคนจะเลือกสถานที่เที่ยวแบบ'ฟัง'จากคนอื่น'ฟัง'จากกลุ่มที่บอกต่อมาว่าที่ไหนน่าไปเพื่อที่จะได้ออกแบบ Itinerary ได้เอง เดินทางก็ไม่ต้องกลัวหลงเพราะมือถือแทบทุกตัวในอนาคตคงจะมี GPS และ Navigator จะจองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรมเดี๋ยวนี้ทุกคนก็แทบจะทำเองออนไลน์กันหมดแล้ว รูปแบบการทำตลาดการท่องเที่ยวคงจะเปลี่ยนไปโดยปริยาย
ธุรกิจค้าปลีกแทบไม่ต้องพูดถึง เมื่อผู้บริโภครุ่นใหม่ต้องการ'เสพ'ในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งหรือ 'belong to' แบรนด์สินค้าจำเป็นต้องเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา เพื่อดูว่าพวกเขาสนใจอะไรกันอยู่ ซึ่งจะช่วยให้การสื่อข้อความของแบรนด์และสินค้าต่างๆมีความน่าเชื่อถือ ตรงใจ โดนกลุ่มมากยิ่งขึ้น สื่อออนไลน์ประเภท cloud computing จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจนี้ดำรงอยู่ได้ด้วยการสร้างนวัตกรรมที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างผู้บริโภค ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายได้
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและสร้างสรรค์ (design and creativity) ต้องสร้างเครือข่ายของผู้บริโภคเพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบครบวงจร อย่าลืมนะครับว่าคน Gen C ชอบแสดงความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกมา และพวกเขาจะไม่คอยแต่รอรับไอเดียใหม่ๆเพราะจะรู้สึกถูกยัดเยียด แต่เขาอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมเล่น หรือร่วมกำหนดรูปแบบของสินค้าที่เขาอยากจะเสพ ดีไซเนอร์หรือโพรดิวเซอร์ที่ทำงานแบบ'ตามใจคนจัด ขัดใจคนขอ และไม่ง้อคนฟัง'คงเหลือที่ยืนอยู่ไม่เท่าไหร่ในเวทีแห่งอนาคตครับ
...
โลกของธุรกิจในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ากำลังจะถูกกำหนดโดยคนกลุ่มนี้ครับ สำหรับเจ้าของกิจการ การวางแผนทางธุรกิจคงไม่ใช่วางกันเป็นเดือนหรือเป็นปี แต่ต้องมองไปข้างหน้าไกลกว่านั้นเยอะ สำหรับบริษัทใหญ่ๆ ผู้บริหารคงต้องเริ่มมามองดูว่าทรัพยากรของบริษัทกำลังจะเปลี่ยนรูปแบบและพฤติกรรมไปอย่างๆไรเพื่อจะได้ปรับตัวองค์กรให้เข้ากับรูปแบบธุรกิจที่กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคตอันใกล้นี้
No comments:
Post a Comment