Tuesday, 17 November 2009
เศรษฐศาสตร์และการทำนาย โวหารของกำลังใจ
สองสามปีมานี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ด คนทำธุรกิจนอกจากมองหาความหวังหรือแสงสว่างปลายอุโมงค์ ยังพยายามชะเง้อรอฟัง “ผู้รู้” หรือ “กูรู” ที่อย่างน้อยจะให้ความเห็นได้ว่าเมื่อไหร่เศรษฐกิจจะโงหัวขึ้นได้สักที
การทำนาย หรือให้ความเห็นทางเศรษฐศาสตร์และทิศทางของเศรษฐกิจคือ “โวหาร” ที่มีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมาย แม้รูปแบบความเห็นหรือการนำเสนอจะแตกต่างกันแต่ก็ยึดหลักการคล้ายๆกันคือนำเสนอคำตอบที่ผู้รอฟังอยากฟังอยากรู้ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบยากง่าย เข้าใจได้ช้าหรือเร็ว
เดิมทีการทำนายเป็นคนละเรื่องกับความเห็น ซึ่งเดี๋ยวนี้อย่างหลังมักขึ้นอยู่กับชื่อเสียง ความสามารถหรือแค่ภาพลักษณ์ของผู้พูด ปัจจุบันการทำนายหรือความเห็นจะมีประสิทธิภาพหรือถูกต้องแค่ไหนง่ายหรือยากเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อความเป็นจริงมาก อีกทั้งมักจะถูกสื่อความไปในทิศทางที่สนับสนุนต่อจุดประสงค์ซ่อนรูปของผู้พูด
เบื้องหน้าและเบื้องหลังของความเห็นทางเศรษฐศาสตร์และทิศทางของเศรษฐกิจเหล่านี้จริงๆแล้วอาจแค่บรรจุมายาคติเกี่ยวกับโวหารหรือภาวะในใจของผู้ส่งสาส์นเท่านั้น
เราเห็นหลักของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของนักการเมืองเรื่องเศรษฐกิจที่เข้มแข็งแล้ว หลังจากงบประมาณที่ไปกู้คนอื่นเขามาจำนวนมหาศาล (แต่ไม่ยักบอกว่าเกี่ยวข้องทางเศรษฐศาสตร์กับความเข้มแข็งอย่างไร)
...หรือนี่คือหลักการที่เน้นโวหารของประชานิยม
เราเห็นหลักของการให้ความเห็นทุติยภูมิทางเศรษฐกิจหรือ พฤติกรรมบางอย่างทางเศรษฐศาสตร์เพื่อองค์กร เป็นความเห็นความคิด คำทำนายที่ขึ้นๆลงๆ แบบอ้อมๆ วิถีโค้ง โดยนักวิชาการที่ไม่ว่าอ่อนเยาว์หรือมากด้วยคุณวุฒิ(แต่ไม่เคยอยู่ในสาระบบของธุรกิจ)
...หรือนี่คือหลักการที่เน้นโวหารของความมั่นใจในข้อพิสูจน์หรือแค่ความเชื่อ ไม่ว่าของตัวเอง หรือของคนอื่น ในหรือนอกระบบ
เราเห็นหลักของการแสดงความคิดเห็นของแนวโน้มการขึ้นลงของอุปสงค์ อุปทาน พฤติกรรมผู้บริโภคโดยนักธุรกิจที่ต้องการแสดงศักกายภาพของบริษัทหรือของตัวตน หรือเพื่อส่งเสียงดังๆโน้มน้าวตลาด หรือเพื่อสร้างแรงจูงใจผ่านสื่อหรือสาส์นต่างๆ
...หรือนี่คือหลักการที่เน้นโวหารของด้านความกลัว ความกังวล หรือความเข้มแข็ง ให้กำลังใจตลาด ให้กำลังใจตัวเอง หรือให้กำลังใจตลาดเพื่อให้กำลังใจตัวเอง
ความเห็นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการทำนายอาจมีธง มีภาพของตัวเองที่ส่งสัญญาณที่มีสัญลักษณ์อันหลากหลายขึ้นอยู่กับมุมมอง
เมื่อมีหลายมุมมองแล้วนั้น..
หรือการทำนายอะไรๆทางเศรษฐกิจ จะเป็นแค่เรื่องโวหารของกำลังใจ
No comments:
Post a Comment