วันนี้อ่านข่าวบริษัทจดทะเบียนปิดตัวเองอีกเป็นร้อย กว่าครึ่งเป็นรับเหมา ออกแบบและอสังหา
เมื่อวานเค้าบอกว่าวิศวกรและสถาปนิกจะตกงานอีกกว่า 6,000คน
ฟังแล้วเศร้า
ผมจะคุยให้ฟังว่าอะไรทำไม โครงสร้างวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทในแวดวงสถาปนิก ก่อสร้างหรืออสังหา ถึงพยายามเข้าใจตัวเราเองยากได้ขนาดนั้น(หรือจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ไม่เข้าใจเลยพากันล้มไปเรื่อยๆ)
จริงๆโครงสร้างผู้เล่นทั้งสามกลุ่มรวมตัวกันโดยมีลักษณะหลวมๆแต่คล่องแคล่ว มีที่มาที่ไป มีรูปแบบเฉพาะที่่ชัดเจนไม่เหมือนใคร
เล่าปี่เริ่มต้นจากความลำบาก ทำงานหนัก(สานรองเท้าฟางขาย)ชอบศิลป การละคร อดทนอดกลั้น รู้จักคำว่ารอคอย
โจโฉมีชีวิตที่ดีแต่เริ่ม เกิดในตระกูลขุนนาง เรียนเก่ง เป็นทหารโดยวิชาชีพ ใจเด็ดเดี่ยว คำไหนคำนั้น ตัดสินใจเร็ว ใจกล้า ใจถึง เหี้ยมโหดกับคนทรยศ
ซุนกวนมองเห็นคนอื่นๆลำบากเพื่อตนเองมามาก จึงรู้จักใช้และบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ ทั้งส่วนที่มีมากและส่วนที่มีจำกัด รักพวกพ้อง ไว้ใจลูกน้องและรักสงบ มือประสานสิบทิศ
เล่าปี่อธิบายบริบทของการเริ่มต้นที่ดีและการบริการโครงสร้างของบริษัทออกแบบ
เล่าปีเชื่อใจลูกน้องจนในองค์กรไม่มีคำว่าลูกน้อง แต่มีความเป็นเป็นเพื่อนตาย ที่ร่วมรับผิดชอบงานเหมือนๆกัน จนลูกน้องรักและเคารพจากใจ ถึงแม้รบแพ้หลายครั้ง(เหมือนบริษัทออกแบบที่ส่วนใหญ่ลำบากที่จุดเริ่มต้น)เล่าปี่บริหารทักษะของคนจากความเชื่อใจไว้ใจ เพราะเล่าปีรู้ว่าคนเก่ง คนพิเศษอย่าง กวนอู เตียวหุย ซื้อไม่ได้ เล่าปี่อ่านคนนิสัยขาด แม้จูกัดเหลียงยังยอมสยบให้ ทุกคนอยู่กับเล่าปี่มีแต่ความจน แต่คนเก่งๆยังอยากอยู่เพราะความสุข อิ่มเอิบที่ได้แสดงความคิด ความสามารถ ความรับผิดชอบ เมื่อหมดยุคของสามก๊ก เล่าปี่เป็นผู้นำราชวงศ์ฮั่นที่่ประชาชนรักและนับหน้าถือตาที่สุดจากใจ เหมือนผู้ออกแบบที่ที่สุดแล้วถ้ามีความเป็นกลาง มีคุณธรรมเหมือนเล่าปี่ คนจะฟังความเห็นและน่าเชื่อถือมากที่สุด
โจโฉทำให้ภาพผู้รับเหมาในการบริหารลูกน้องและความผิดพลาดที่ต้องแก้ไขชัดเจนขึ้น
โจโฉฉลาดเป็นกรด มีลูกล่อลูกชน อ่านยากแต่ดูง่าย บางครั้งประมาท เนื่องจากสงครามของโจโฉส่วนใหญ่เป็นการจงใจยึดครองเพื่อเอาชนะด้วยเงื่อนเวลา จึงมีสงครามหลายด้านโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว จึงต้องทำศึกเร็วและแรงและคุมลูกน้องอย่างเด็ดขาด เบ็ดเสร็จ สั่งไปตายต้องตาย ทำดี ตบรางวัลให้สุดๆ เรื่องทรยศทุจริตลงโทษตายสถานเดียว โจโฉรู้ว่าลูกน้องพร้อมทรยศทุกเมื่อ (ทุจริต) แทนที่จะจับมาประหารเลือกที่จะบริหารระดับของความทรยศให้ควบคุมได้ (สังเกตได้จากสงครามอ้วนเสี้ยว โจโฉจับได้ว่า ลูกน้องส่งจดหมายขอสวามิภักกับศัตรูแต่โจโฉไม่ลงโทษลูกน้องหรือทำอะไรเลย กลับแกล้งโง่ แต่จำไว้รอเช็คบิล)ทหารของโจโฉได้ชื่อว่าน่าเกรงขามและเก่งที่สุด แต่หลอกง่ายที่สุดถ้าขาดแม่ทัพนายกอง (บอกอะไรเราได้)
ซุนกวนคือคำตอบบนยอดพิรามิดของผลผลิตในฐานะดีเวลลอปเปอร์ ซุนกวนสืบสมบัติมาจากพ่อและพี่ที่ต้องตายเพื่อรักษาสมบัติของแผ่นดิน ดีเวลลอปเปอร์ไทยมักมีโมเดลแบบนี้ที่เอาที่ดินหรือสมบัติจากรุ่นก่อนๆมาขายและพัมนา (แม้เนเชอเรลพาร์ค จะแตกต่าง)เห็นคุณค่าของเงินและเวลามาก (เค็มและเก็บทุกรายละเอียด)มองเห็นเรื่องต่างๆผ่านตามาเยอะ (ซุนกวนปกครองยาวที่สุดได้กว่าห้าสิบปี) จึงเลือกไม่ทะเลาะกับใครเพราะรู้ว่าต้องใช้ทุกคน มีทรัพยกรมาก ประชาชนเป็นสุข (บริษัทฯต้องดูดี น่าทำงานด้วยที่สุด)มีขุนศึกที่จงรักภักกดีมากชื่อจิวยี่ ดีเวลลอปเปอร์ขาดคนคนนี้ไม่ได้ (ลองไปคิดดูว่าคือใครและจิวยี่มีลักษณะ อุปนิสัยอย่างไร)ในสมัยซุนกวนซึ่งเป็นรุ่นลูกเมื่อเทียบกับ โจ โฉและเล่าปี่ ซุนกวนกลับมีแผ่นดินมากที่สุดและร่ำรวยที่สุด ซุนกวนเคยเป็นพันธมิตรกับเล่าปี่เพื่อรับมือโจ โฉ แต่วันหนึ่งก็ส่งจิวยี่ไปซัดกับจูกัดเหลียง เพื่ออะไร (จิวยี่ต้องช้ำใจตายเพราะก็ด้วยอุบายของเล่าปี่)
เรื่องนิยายสามก๊กเป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคม แค่เริ่มต้นจากประวัติเล็กน้อยก็บอกอะไรเกี่ยวกับเราๆท่านๆได้เยอะ
ลองไปอ่านดูครับ ถ้ามีเวลาผมจะเล่าให้ฟังอีก
1 comment:
ขอบคุณครับ
ความชอบบุคลิกของผู้นำในสามก๊ก
หะแรกตอนผมเป็นเด็ก อ่านสามก๊ก ผมเกลียดโจโฉ รักเล่าปี่ บูชาขงเบ้ง ซุนกวนผมมองเหมือนคนไม่น่าคบเหยียบเรีือสองแคม
เมื่อตอนจบมหาลัย อ่านสามก๊ก อีกรอบผมกลับชอบโจโฉ มองเล่าปี่เป็นคนไม่จริงใจแผนสูงหลอกใช้คนง่าย มองขงเบ้งเป็นดีแต่พูด มองซุนกวนเป็นมือประสาน
ตอนนี้ผมทำธุรกิจมองเล่าปี่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างตัว มองโจโฉเป็นแรกงกระตุ้นสำหรับแผนการตลาด และมองซุนกวนเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจร่วมกับผู้อื่น
คงเป็นไปตามวัยและประสบการณ์ทำการมองโลกเปลี่ยน...
Post a Comment