Saturday 2 May 2009

เรื่องไม่เว่อร์.. (เหมือน)เฟอร์นิเจอร์ อิตาลี



สิ่งที่ทำให้วงการออกแบบสถาปัตยกรรมของอิตาลี "แตกต่าง" คืออะไร หลายท่านคงยังสงสัย

อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟัง ประเทศนี้เมืองนี้มีการจัดระเบียบการทำงานโดยนักคิดและนักออกแบบครับ นี่คือจุดเริ่มต้นและคือจุดเริ่มต้นของเดินทางที่จะทิ้งประเทศอื่นๆไปเรื่อยๆ ประเทศนี้ถูกครอบงำ(ในทางที่ดี)โดยสถาปนิก นักออกแบบซึ่งเปิดโอกาสให้ใครก็ได้ (ขอให้มีใจรักและแนวคิดที่โดน) มีอิสระทางความคิดในการพัฒนางานของตัวเองในทุกแบบทุกสไตล์ งานออกแบบของอิตาลีจึง "ทันสมัย" อยู่เสมอ

โครงสร้างการบริหารจัดการแบรนด์ของวงการสถาปัตยกรรมในอิตาลีค่อนข้างชัดเจน ถ้าเปรียบเทียบก็คงพูดได้ว่า ดีไซน์เนอร์หรือคนที่อยากเป็นดีไซเนอร์ทุกคนของอิตาลีก็เหมือนศิลปินอิสระ ทำงานตามแนวคิดตัวเองและส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องสังกัดค่ายหรือสตูดิโอ ศิลปินเหล่านี้มีบ้านที่ทำสตูดิโอของตัวเองหรือรวมตัวกันทำงานกันเป็นกลุ่มใหญ่มากขึ้นเพื่อผลิตงานสเกลใหญ่ น่าสนใจกว่าและอาจต้องใช้เงินทุนหรือทรัพยาการมากขั้น แบรนด์ต่างๆก็เหมือนผู้จัดจำหน่ายที่อาจมีหรือไม่มีสตูดิโอในสังกัดเลยและมีการทำหนดทิศทาง คาแรกเตอร์ของงานที่แบรนด์เหล่านั้นมีอยู่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบนรด์ เมื่อโครงสร้างของแบรนด์เป็นแบบนี้ทำให้แบรนด์แต่ละแบรนด์ทำงานได้กว้างขึ้นคลอบคลุมเกือบทุกศาสตร์ของงานสถาปัตยกรรมตั้งแต่ออกแบบผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน สถาปัตยกรรมทุกสเกลตั้งแต่ภายในภายนอกจนถึงงานกราฟฟิก สิ่งพิมพ์ หลากหลายแต่ทำได้ดีคุมโทนของแบรนด์ได้แบบว่ามีผลงานอะไรออกมาก็ยังอยู่ในคาแรกเตอร์ของแบรนด์นั้นๆ

ถ้าให้แบ่งกลุ่มของแบรนด์อิตาลีตามลักษณะและสไตล์งานคงต้องแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ Design House, Fashion House และ Art House

Design House คือพวกที่อยู่ในวงการออกแบบมานาน บางแบรนด์อายุเป็นร้อยๆปี ทำงานตามทิศทางที่โจทย์ของแบรนด์กำหนดไว้อย่างตรงไปตรงมาและมักเป็นโจทย์จากแทรนด์ที่มีส่วนผสมทางการตลาดและความต้องการของลูกค้าพอสมควร แบรนด์กลุ่มนี้ปรับตัวอย่างสม่ำเสมอครับ ตัวอย่างกลุ่มนี้ก็พวก B&B Italia, Minotti หรือ Poliform

Fashion House คือแบรนด์ที่พัฒนาตัวเองมาจากงานออกแบบอื่นที่ที่เกี่ยวกับแฟชั่นมากกว่างานสถาปัตยกรรมโดยตรง เน้นการทำงานออกแบบที่อิงแนวทางของแฟชั่นหลักของแบรนด์ที่มีอยุ่มาก่อนและมาปรับใช้ให้ไปได้กับงานเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มนี้มาแรงและมีอะไรที่ surprise วงการตลอดเวลาครับ
กลุ่มนี้เห็นได้ชัดก็ Kenzo ที่อยู่ในวงการมานานหรือFENDI ที่หันออกแบบชุดครัวสุดล้ำ กรี๊ดสลบ, GIORGIO ARMANI ที่กวาดออกแบบและทำเองตั้งแต่ Café ยัน Disco ไปจนถึงตกแต่งภายในเครื่องบินและขายของแต่งบ้านเนี๊ยบกริ๊บ
หรือ BVLGARI ที่ตอนนี้มาทำโรงแรมอารมณ์นิ่งๆที่ตอนนี้เป็นสุดยอด talk of the town ในมิลาน (แอบบอกว่าผมชอบมากกก)

Art House คือแบรนด์ประเภทแฟนพันธ์แท้ครับ เน้นเทคนิคแนวคิดที่เมื่อก่อนเคยทำอย่างไรเดี๋ยวนี้ก็คิดและทำอย่างนั้น ต้องยอมรับว่าถึงแม้ที่มาที่ไปของแบรนด์กลุ่มนี้จะผลิตและออกแบบกันมาเป็นร้อยปี ผลิตภัณฑ์หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เค้าผลิตกันวันหน้าอาจหน้าตาไม่เหมือนเมื่อก่อนแต่กลับรู้สึกได้อย่างแรงถึง "กลิ่น" จากรากเหง้าของแบรนด์ครับ ตั้งแต่งานเครื่องหนังและทองเหลืองแบบชาววังสุดเนี๊ยบจาก Poltrana Frau (ไม่แปลกที่คนซื้อก็ royalty ทั้งนั้น) งานไม้มีเรื่องราวและเทคนิคTuscanจ๋า ของ Cassina หรืองานแสงและงานไฟจากสถาปนิกชื่อโบราณ(แต่งานระบือ)แบบ Fontana Arte ที่ทำ stained-glass ของ Duomo de Milano (กว่าจะเสร็จปาไปห้าร้อยปี!)

ก็ว่ากันไป
เว่อร์ไปมากน้อย แต่ละแบรนด์แต่ละแบบ

แต่ที่น่าทึ่งแบบไม่เวอ่ร์
คืออะไรทราบมั้ยครับ?

มีงานดีๆออกมาคนที่นี่ไม่ได้สนใจจะจำว่าเฟอร์นิเจอร์ตัวนั้นตัวนี้ "แบรนด์" อะไร
หรือ "แพง" ขนาดไหน

คนที่นี่จะจำว่า "ใคร" ออกแบบ

No comments:

Post a Comment